Indicators แต่ละตัวทำหน้าที่ต่างกัน ยิ่งมีการตั้งค่าที่หลากหลายก็จะมีมุมมองในการวิเคราะห์ด้านเทคนิคเพิ่มมากขึ้น "ถึงขั้นทำให้สับสน" โดยบางเวลา Indyแต่ละตัวให้สัญญาณ ขึ้น และ ลง ในเวลาเดียวกัน และยิ่งไปกว่านั้น Timeframe แต่ละช่วงก็ต่างกัน เลยตัดสินใจไม่ได้ว่าถูกหรือผิด
กูรูหลายท่าน หรืออาจารย์หลายคนที่สำเร็จแล้วมักจะไม่แสดงกราฟที่มี Indicators หลายตัว โดยเฉพาะนิยมการเทรดด้วย "กราฟเปล่า" ก็ไม่ใช่เทรดด้วยกราฟเปล่า 100% ซึ่งแน่นอนว่าทุกท่านคงจะมีความแตกฉานในการนำเครื่องมือ Indicators แต่ละตัวมาใช้งานอยู่แล้ว แต่อย่างที่บอกว่าการตัดสินใจ จำเป็นต้องลดองค์ประกอบที่หลากหลายเพื่อป้องกันการสับสนของทิศทาง และการหาจุดเปิด-ปิด ในระยะที่ดีที่สุด
หลักๆในการเทรดกราฟเปล่าที่เรียกว่า "Price Action (PA)" อาจจะประกอบไปด้วย
1. Trend Line เพื่อ หาแนวโน้มทิศทางของกราฟ และ สามารถหาจุดเปิด Order ได้
2. Support & Resistance (แนวรับ-แนวต้าน) เพื่อ หาจุดเข้า Order ไปจนถึง จุดปิดกำไร/จุดปิดขาดทุน
3. Volumn เพื่อ แสดงปริมาณกำลังซื้อ-ขาย ในตลาดแต่ละช่วง
ส่วน Indicators อื่นๆ ก็สามารถนำมาประกอบเพื่อการตัดสินใจ แต่ผมยกตัวอย่าง 3 ข้อดังกล่าวก็สามารถทำกำไรได้อย่างมหาศาลสำหรับการเทรดแนว Price Action
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น